Monday, October 15, 2012

โรคที่คุณอาจไม่รู้...จากภัยปัญหา"รถติด"

    ทุกวันนี้ที่เราขับรถยนต์ ไม่ว่าจะไปไหนก็ตาม ต้องยอมรับว่า ในเขตกรุงเทพมหานครการจราจรบ้านเรานั้นติดหนักมากจนเกินคำบรรยาย ซึ่งมากขนาดที่จัดอันดับโลกแล้วเราติดอยุ่ที่ 4 ในฐานะเมืองที่รถติดมากที่สุดในโลก 
            รถติดอาจจะถูกมองว่าเป็นเรื่องเสียเวลาเสียมากกว่า แต่ถึงอย่างงั้นมันก็ยังมีผลพวงต่อสุขภาพที่อาจถูกบั่นทอนโดยไม่รู้ตัว และถ้าวันนี้คุณเป็นคนที่ต้องอยู่ในรถเป็นเวลานานระวังโรคร้ายต่างเหล่า นี้...จะถามหา

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
            หลายคนที่ขับรถบ่อยคงจะเป็นโรคนี้กันมาก ด้วยส่วนหนึ่งที่ว่าไม่เป็นไรเดี่ยวก็ถึง ประกอบกับห้องน้ำตามปั้มบ้านเราไม่คนเยอะก็ไม่สะอาดและยิ่งกับคนเมืองแล้วจะ หาปั้มดีๆก็ยากเย็นแสนเข็ญ
            ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบอั้นปัสสาวะเป็นเวลานานๆ ซึ่งไม่จำเป็นต้องหมายถึงเฉพาะกับเรื่องราวของรถติดเท่านั้น คุณกำลังเสี่ยงเป็นโรคนี้มากที่สุด แต่ก็มีวิธีแก้อยู่บ้างเริ่มจากไม่ควรอั้นปัสสาวะ ถ้ารู้สึกว่ากำลังจะต้องไปปฏิบัติภารกิจควรทำก่อนที่จะขึ้นรถ แล้วที่สำคัญที่สุดควรดื่มน้ำมากๆไปพร้อมกันด้วยขณะขับขี่ เนื่องจากปัสสาวะเรามีความเข้มของของเสียต่างๆ มากการดื่มน้ำจะช่วยเจือจางแม้จะต้องเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้นก็ตาม แต่ถ้าพบว่ามีอาการปัสสาวะสะดุดหรือรู้สึกไม่สุดควรพบแพทย์ทันที
โรคเครียด
            การจราจรที่ติดขัด ย่อมส่งผลต่อสุขภาพจิตและนั่นเป็นที่มาของโรคเครียด ..โรคนี้เป็นอาการที่มากจากภาวะทางจิตใจแลอารมณ์ของเรา ในการที่ทำอะไรแล้วรู้สึกกดดัน ซึ่ง "รถติด" ถือเป็นอีกเรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน
            อาการของโรคเครียดนั้น สามรถก่อเป็นปัญหาอื่นๆตามมาได้  เพราะเป็นโรคที่มีผลทั้งทางร่างกายและจิตใจ สามารถนำไปสู่การเป็นโรคจิตอ่อนๆได้ ซึ่งทางป้องกันในกรณีรถติดคือ เปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่หรือหาเส้นทางใหม่ ในการหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด
ตาล้าหรือเมื่อยตา
            การขับรถส่วนที่สำคัญคงไม่พ้นในเรื่องของการใช้สายตาในการสอดส่ายไปรอบทิศ ทางระแวดระวังความปลอดภัย และ การใช้สายตามากๆ ก็ย่อมมีปัญหาตามมา เพราะนอกจากการใช้สายตาในการขับขี่แล้ว ยังใช้มันทำงานด้วย เรียกว่าแทบจะไม่มีเวลาใดเลยที่เราไม่ใช้สายตาในการทำงาน
            ด้วยเหตุนี้เวลาที่เราขับขี่รถเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะในยามค่ำคืน เราอาจจะเกิดอาการเมื่อยตาได้ง่ากว่า เนื่องจากม่านตาต้องขยาย และสามารถนำไปการหลับในได้ง่ายกว่าในยามขับขี่
            แม้ฟังดูอาการเมื่อยตาจะไม่มีวิธีป้องกันได้ แต่สามารถบรรเทาได้ เช่นการพักสายตาเลิกจ้องหรือเพ่งต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นเวลานานๆ และที่สำคัญ สีเขียวช่วยให้ตาเรารู้สึกผ่อนคลายได้มาก ถ้าหากรู้สึกเมื่อยตา ลองหัวมองต้นไม้ใบหญ้าบ้างก็ได้ ถ้ามี ..
หมอนรองกระดูกเสื่อม/ทับเส้นประสาท
            การนั่งขับรถเป็นต้นเหตุหนึ่งที่สำคัญ ที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าอาจเป็นต้นเหตุของโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม และ มันยังนำมาสู่โรคร้ายที่สำคัญอย่างหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
            สาเหตุของการเกิดโรคนี้นั้น ก็มาจากการที่เรานั่งยู่ในท่านั่งที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานานๆ  หรือไม่มีการเปลี่ยนอิริยาบถเป็นระยะเวลานานๆ เช่นกัน ดังนั้นหากต้องนั่งขับรถเป็นระยะเวลานาน ควรทดแทนด้วยการบริหารหรือออกกำลังกายโดนเฉพาะช่วงหลัง จะช่วยได้พอสมควร  ซึ่งหากพบอาการปวดหลังเป็นอย่างเรื้อรังควรรีบปรึกษาแพทย์ในทันที
ปวดคอ
            อาการปวดคอเป็นอาการที่อาจจะฟังดูผิวเผิน แต่ถ้ามองลึกไปจริงๆ มันอาจจะเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันในระหว่างการขับขี่  ส่วนหนึ่งก็สืบเนื่องจากการนั่งท่าเดิมติดต่อกันนานๆ และ ที่สำคัญบางคนยังมีท่านั่นไม่ถูกต้องเป็นแรงเสริมของอาการนี้ด้วย
            อาการปวดคอนี้เป็นส่วนหนึ่งของอาการ กล้ามเนื้อคออักเสบ ซึ่งมาจากการไม่ได้ขยับหรือเปลี่ยนท่าทางอิริยาบถเป็นระยะเวลานานๆ ซึ่งอาการนี้สามารถรักษาได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่มันก็ยังสามารถป้องกันได้จากการบริหาต้นคอเป็นประจำ และในระหว่างขับขี่ถ้ามีโอกาส แต่ทั้งนี้ไม่ควรหันเอี้ยวอย่างกะทันหัน เนื่องอาจจะทำให้ผิดท่าและอาจจะเป็นอาการบาดเจ็บเรื้อรังได้
            สิ่งที่สำคัญที่สามารถป้องกันได้คือหัวหมอนเบาะนั่งที่จะช่วยให้เรานั่งใน ท่าที่ถูกต้อง โดยหัวหมอนเบาะรถยนต์ควรปรับให้อยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางศีรษะ
            ทั้งหมดที่กล่าวมา นี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของหลากโรครุมเร้าชีวิตของคนขับรถในเมืองที่ปัจจุบัน การจราจรมีความหนาแน่นขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าสุขภาพก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นเราควรที่จะหมั่นดูแลตัวเองไปพร้อมกันด้วย

No comments:

Post a Comment