Sunday, October 28, 2012

"honda freed" ใหม่ รถอเนกประสงค์ของคนเมือง



ฮอนด้า ฟรีด รถมินิ เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง จากค่ายฮอนด้า เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่เปิดตัวครั้งแรกที่ญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม 2551 สร้างความฮือฮาให้กับวงการรถยนต์บ้านเราไม่น้อย หลังจากเปิดตัวช่วงปลายปี 2552 เพราะเป็นรถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวคนเมือง แบบประตูไฟฟ้าสไลด์ 2 ด้าน เหมาะกับการใช้งานในเมือง

แต่เมื่อเป็นรถนำเข้าแบบสำเร็จรูป จากฐานการผลิตที่อินโดนีเซีย ทำให้ตั้งราคาไว้ขณะนั้นสูงปรี๊ดถึงคันละ 1 ล้านกว่าบาท ในขณะที่มีตัวเปรียบเทียบในขณะนั้นคือ โปรตอน เอ็กโซล่า เครื่องยนต์ใกล้เคียงกัน เป็นรถอเนกประสงค์เหมือนกัน แม้ว่าจะไม่มีประตูสไลด์ แต่ราคาต่างกันลิบลับ เพราะ เอ็กโซล่า กดราคาเหลือประมาณ 7 แสนบาท ทำให้ฮอนด้า ฟรีด ในระยะแรกไม่ประสบผลสำเร็จด้านยอดขายมากนัก เพราะราคาไม่โดนใจผู้บริโภคชาวไทย แต่ก็สามารถทำยอดขายได้ 11,400 คัน (ม.ค.2553-ก.ค.2555)


ต่อมา ฮอนด้า ปรับกลยุทธ์ใหม่ ตัดอุปกรณ์บางส่วนออกไป ลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด แต่ยังคงจุดแข็งความเป็นรถอเนกประสงค์ใช้งานได้สะดวกสบาย ตามสไตล์ฮอนด้าเอาไว้ ทำให้ลดราคาลงมาได้มาก เหลือ 8-9 แสนบาท จึงพอกระเตื้องขึ้นมาบ้าง

จนกระทั่งล่าสุดเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ ผ่านมา ฮอนด้า ประกาศเปิดตัว ฟรีด ใหม่ ดีไซน์ปรับใหม่ ให้นิยามความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ หรือ Multipurpose Utility Vehicle (MUV) มีการปรับแต่งรูปลักษณ์ภายนอกให้โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น ด้วยกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ โคมไฟหน้าสีเงินแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ กระจังหน้าแบบโครเมียมดีไซน์ใหม่ สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยไฟท้ายและ

คิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียมพร้อมสปอยเล่อร์หลัง ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่

ห้อง โดยสารด้วยเบาะหนัง เพิ่มพนักเท้าแขน ทั้งผู้โดยสารแถวหน้าและแถว 2 พร้อมให้ความบันเทิงด้วยระบบเครื่องเสียงแบบวิทยุ MP3 พร้อมจอ LCD ระบบสัมผัส 7 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง

ผู้ โดยสารตอนหลังยังเพลิดเพลินไปกับเครื่องเล่นดีวีดี พร้อมจอ LCD ขนาด 10 นิ้ว และอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับด้วยสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยและการ เชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth (เฉพาะรุ่น EL)

ฟรีด มีจุดเด่นในด้านห้องโดยสารที่กว้างขวางและการจัดวางพื้นที่ใช้สอย รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ขับขี่ง่าย ห้องโดยสารของฟรีดได้รับการออกแบบสไตล์ โอเพ่น คาเฟ่ (Open Cafe) ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย รองรับผู้โดยสารได้ 7 คน เบาะนั่งแถว 3 ปรับพับได้เพื่อการบรรทุกสัมภาระและการใช้งานที่หลากหลาย มีพื้นที่ว่างแนวกลางที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการเดินถึงกันได้แบบ วอล์ก ทรู (Walk Through) มีประตูสไลด์อัตโนมัติทั้งด้านซ้ายและขวาให้ความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงหรือ ขนย้ายสัมภาระแม้จอดในพื้นที่แคบ

เครื่องยนต์เป็นรุ่น SOHC i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 118 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เกรด โลจิค คอนโทรล (Grade Logic Control) ให้การตอบสนองฉับไว พร้อม ไดเรคต์ คอนโทรล (Direct Control) และ ชิฟท์ โฮลด์ คอนโทรล (Shift Hold Control) ช่วยรักษาความเร็วขณะเข้าโค้ง

เห็นเครื่องยนต์แค่นี้ แต่เมื่อยามบรรทุกเต็มพิกัด กลับให้สมรรถนะที่ดี ไม่อืดอาดยืดยาดอย่างที่คิด

ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนียนและเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPS) รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.2 เมตร

ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น SE ราคา 839,000 บาท และรุ่น EL ราคา 949,000 บาท มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาวบริลเลียนท์ (มุก) (เพิ่ม 10,000 บาท) สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) และสีใหม่ คือ สีน้ำตาลสปาร์คลิ่ง (เมทัลลิก)

ฮอนด้าตั้งเป้าหมายยอดขายที่ 12,000 คันภายในหนึ่งปี เชื่อว่าคงจะไม่ยากเย็นอะไร สำหรับรถอเนกประสงค์ของคนเมืองแบบนี้

No comments:

Post a Comment